เหนือฟ้าใต้บาดาล ใต้พิภพ

เป่ายันต์พระสิวลี เข้าตัว ไล่เสนียด รับโชคช่วงกินเจ

พระสิวลี....ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันมากในหมู่ของ พุทธศาสนิกชน โดยทั่วไป
เนื่อง จาก...เป็นพระอรหันต์ ผู้มีเอตทัคคะที่เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านโชคลาภ เปี่ยมด้วยโภคทรัพย์ ยามที่หมู่สงฆ์จะไปในถิ่นกันดาร พระบรม ศาสดาจึงมักมีพระดำรัสให้พระสิวลีไปด้วยเสมอ....

ใน อดีตชาติ....พระสิวลีเคยสร้างบุญโดยถวายน้ำผึ้งสดแก่พระวิปัสสีพุทธเจ้ากับ คณะสาวก อานิสงส์แห่งการถวายทานแก่ผู้มีจิตบริสุทธิ์ จึงส่งผลให้เกิดมามิรู้จักอับจน เป็นผู้สมบูรณ์พร้อมด้วยลาภสักการะ....
แต่....พระสิวลีก็เคยพลาดเช่นกัน ครั้งที่เกิดเป็นกษัตริย์ได้ยกทัพไปล้อมนครตีเมืองขึ้นนานถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ต้องเผชิญกับความอดอยากยากแค้น มีความทุกข์ทรมานทั้งเด็กและคนชรา

สังสารวัฏ ว่ายเวียน บาปส่งผลให้ช่วงที่พระสิวลีมาเกิดต้องอยู่ในครรภ์พระนางสรุปวาสา ผู้เป็นมารดานานถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ทรงได้รับความ ทุกข์เวทนามาก (ทั้งพระโอรสและพระมารดา)...เท่ากับคาบเวลาที่ไปล้อมเมืองเมื่อ ครั้งอดีตชาติ

ปรากฏการณ์ นั้น แสดงให้เห็นถึง “กฎแห่ง กรรม” มีความเสมอภาค เทียมเท่า ไม่ว่าจะทำดีทำชั่วผลก็จะตามติดเสมือนเงาที่ติดไปทุกหนแห่ง จะเกิดในชาติไหนๆ เกิดเป็นอะไร “กรรม” ไม่เคยละหน้าที่ พร้อมให้ผลเมื่อถึงเวลาอันควร

อย่างไรก็แล้วแต่....พระสิวลีแม้จะ มีวิบากกรรมให้เห็นบ้าง แต่ในส่วนของกุศลผลบุญก็ยังสูงส่ง บารมีพลังเข้มขลังในโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ ถือว่าเป็น 1 ในจำนวน 18 พระสาวกผู้ทรงคุณวิเศษที่พระพุทธองค์ทรงยกย่อง

ด้วย ความเป็นเลิศแห่งพระสิวลี ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลถึงปัจจุบัน จึงมีศาสตร์ “พระสิวลีใหญ่” สืบสานกันมา ตามแรงแห่งความเลื่อมใสว่า เหมือนแก้วสารพัดนึก ด้วยวิชานี้เป็นการอาราธนาบารมีพระผู้มากด้วยโชคลาภ...นำเอามงคลพลังฝังใน ตัวบุคคล

...การถ่ายพลังพระสิวลีใหญ่สร้างความเข้มขลังเป่ายันต์เข้า ตัวคน เฉกลงนะหน้าทองและเป่ายันต์เกราะเพชร โดยเชื่อว่าอิทธิคุณเป็นยอดพลังงานในการสลายสิ่งที่ติดๆขัดๆ ลดแรงเวรแรงกรรมที่ทำให้เกิดอุปสรรคต่างๆกับชีวิต

...พระเถระหรือเกจิอาจารย์ ที่จะประกอบพิธีกรรมนี้ได้ จักต้องเป็นสงฆ์ที่ได้ญาณสมาธิสูง ผ่านกสิณภาวนามาอย่างช่ำชอง ซึ่งอริยสงฆ์ในขั้นนี้มีจำนวนไม่นากนัก ศาสตร์ “พระสิวลีใหญ่” จึงค่อยๆลดท่าล่าถอย ไปโดยปริยาย...!!
วัด สุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กทม. .....จึงอยาก ปัดฝุ่นรื้อฟื้นเอาศาสตร์ “พระสิวลีใหญ่” ที่เข้มขลังในอดีตมาถือปฏิบัติ ในยามนี้ เพื่อ ปลดทุกข์ของเหล่าศิษยานุศิษย์ให้หลุดพ้น แล้วเข้าสู่ห้วงแห่งโชคลาภ...ฯลฯ

แต่ พิธีกรรมการเป่ายันต์พระสิวลีใหญ่นั้น ต้องเลือกวันที่เป็นสิริมงคลในปีนั้นๆ เป็นเกณฑ์ เมื่อจะทำพิธีต้องปริมณฑลด้วยสายสิญจน์กำหนดเขต ตั้งแท่น ยันต์พระสิวลีใหญ่ มีบายศรีซ้ายขวา เครื่องกระยาบวช

ทุกคนที่ร่วมพิธีกรรมต้องสะอาดด้วย สมาทานศีล 5....ขับไล่สิ่งอัปมงคล วิญญาณเจ้ากรรมนายเวร คุณไสย มนต์ดำ ออกจากร่างกาย เพื่อรอรับอิทธิพลังแห่งความเป็นสิริมงคลไว้อย่างเต็มเปี่ยม
สถาน ที่.....ในการจัดพิธีกรรมครั้งนี้ กำหนด ณ ศาลาเศรษฐีทอง อาคารอเนกประสงค์ตั้งอยู่ด้านข้างพระวิหารหลวง ใกล้กับเสาชิงช้า ติดถนนตีทอง

ส่วน เวลาถือฤกษ์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม อันเป็นช่วงดาวจันทร์เสวยดาวหัสตะในภูมิปาโลฤกษ์ ต่อด้วยเทศาตรีฤกษ์ เป็นวันเริ่มเทศกาลกินเจ (ถือว่าร่างกายสะอาดด้วยไม่บริโภคเนื้อสัตว์) คาบเวลาตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นทั้ง 2 วัน (5-6 ตุลาคม)
โดย...นิมนต์ หลวงพ่ออั้น อภิปาโล วัดธรรมโฆษก อุทัยธานี หรือ “หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค” เป็นเจ้าพิธี
หลวง พ่ออั้นวัดโรงโค อายุ 86 ปี ถือว่าเป็น เกจิอาจารย์ที่เข้มขลังในวิชาอาคมรูปหนึ่งของจังหวัดอุทัยธานี เป็นผู้สนใจเกี่ยวกับวิชาอาคมมาตั้งแต่เด็กๆ พอเรียนจบก็เข้ารับราชการ เป็นนายตำรวจฝีมือดีคนหนึ่งในยุคพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์

ช่วงนั้น ได้รับใช้ “ขุนพันธรักษ์ราชเดช” ในการปราบโจรผู้ร้าย ได้ติดตามเป็นลูกมืออย่างใกล้ชิด จึงเป็นโอกาสทองสมัครเป็นศิษย์ ได้รับการถ่ายทอดวิชาอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม แก้อาถรรพณ์ ฯลฯ
เมื่อ ขุนพันธ์ฯย้ายไปราชการที่ภาคใต้ จึง เกิดจิตสำนึกว่าอยู่ในสมณะเพศจะเหมาะสมกว่าเป็นตำรวจ (ซึ่งแนวคิดนี้ฝังมาแต่เด็ก เมื่อครั้งที่ได้ปรนนิบัติครูบาศรีวิชัย และได้รับคำสอนในเรื่องเมตตาบารมี) จึงตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อชำระสิ่งต่างๆในการดำเนินชีวิต

หลวงพ่ออั้น...ได้นำความรู้ในศาสตร์ต่างๆ มาโปรดสาธุชนทั้งหลาย อย่างเช่น การพยากรณ์ชีวิตจนได้รับฉายาว่า “หมอดูเทวดาตาทิพย์” และได้สร้างพระเครื่อง  วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลัง ไว้หลายรุ่น อาทิ...รูปหล่อ (หลวงพ่ออั้น) บูชา เหรียญลิงลม พระสิวลี

สำหรับการ “เป่ายันต์พระสีวลีใหญ่” เป็นตำราของหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ซึ่งทุกครั้งที่ หลวงพ่ออั้นจะประกอบพิธีกรรมนั้น ต้องเตรียมตัวนานหลายช่วงวันพระใหญ่ (15 ค่ำ)....

ส่วนจะเข้มขลังขนาดไหนนั้น ก็ ขึ้นอยู่กับร่างกายและจิตผู้รับ....ที่จะสะอาดบริสุทธิ์เพียงใด.!!!