ฉลองซ่อมโบสถ์พราหมณ์ จำลอง"พิฆเนศวร"เป็นที่ระลึก
ฉลองซ่อมโบสถ์พราหมณ์ จำลอง"พิฆเนศวร"เป็นที่ระลึก
พระราชครูวามเทพ
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ...โปรดเกล้าฯให้สร้าง เทวสถาน “โบสถ์พราหมณ์” ขึ้นเมื่อปี 2327 เพื่อ ประกอบศาสนกิจแห่งพรามหมณ์ (ฮินดู) และ บูชาเทพ คือ เลขที่ 268 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. ในปัจจุบัน โดยให้อยู่ภายใต้การบริหารของ คณะพราหมณ์หลวงแห่งราชสำนัก
ศาสนสถานแห่งนี้จึงมีความสำคัญยิ่งกว่าอื่นๆในบรรดาวัดฮินดูทั้งหมดบนแผ่นดินสยาม...!!!
ล่วง ถึงปัจจุบัน...พระมหาราชครูอัษฎาจารย์ เป็นประธานฯ พระราชครูวามเทพมุณี เป็นหัวหน้าพราหมณ์ ปฏิบัติการดูแลคณะทำหน้าที่ด้านศาสนา....และ ถวายงานราชพิธี
พระราชครูวามเทพ (ชวิน รังสิพราหมณกุล) สืบเชื้อสายเป็นพราหมณ์หลวงมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ล่วงถึงสมัยรัชกาลที่ 6 พระราชครูฯคนเก่าไม่มีทายาทสืบตำแหน่ง สว่าง รังสิพราหมณ์กุล (นามสกุลพระราชทานฯ) ซึ่งเป็นทวดได้รับช่วงต่อ แล้วก็สืบตำแหน่งถึงคุณปู่ คุณพ่อ ล่าสุดจึงถึงตัวท่าน ณ วันนี้
พิธีกรรมภายในโบสถ์
พระ ราชครูวามเทพ เล่าว่า....แรงบันดาลใจเกิดขึ้น ตั้งแต่เยาว์วัยมีความรู้สึกภูมิใจมากที่บิดาเป็นราชครู ทำหน้าที่ปฏิบัติราชพิธีต่างๆและบูชาเทพเจ้าเสมอๆ (สวดบูชา 3 เทพเจ้า พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม และนมัสการพระอาทิตย์ตามเวลา เช้า กลางวัน เย็น เพื่อนำจิตวิญญาณเข้าสู่การหลุดพ้น...กลับคืนยังพรหมเทวะ) เลยลาโรงเรียนติดตามไปในยามประกอบพิธีกรรมต่างๆ จนสามารถที่จะเป็นพราหมณ์ได้
จึงสืบสานเจตนารมณ์ของบิดาตัดสินใจเข้า บวช...การที่จะเข้าบวชเป็นพราหมณ์หลวงจะต้องได้รับความยินยอมจากที่ประชุมใน ทำเนียบพราหมณ์หลวง ซึ่งพราหมณ์ใหม่ที่ผ่านการบวช...
ถือเป็นทวิชชาติคือการเกิดครั้งที่ 2
224 ปี เทวสถาน “โบสถ์พราหมณ์” วัตถุ อุปกรณ์ก็ชราไปตามกาล เมื่อ สมัยพระพุทธเจ้าหลวงได้ปฏิสังขรณ์ ไปแล้วครั้งหนึ่ง แล้วก็ ล่วงมาอีกศตวรรษถึงปี 2555 จึงได้ดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงให้ถาวรมั่นคงอย่างสมบูรณ์ เพื่อสืบต่ออายุ
องค์พระพิฆเนศวรจำลอง
บัด นี้...การบูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จเรียบร้อยจึงได้จัดสร้างอนุสรณ์ที่ระลึก ต่อสถานการณ์แห่ง ประวัติศาสตร์ พระราชครูวามเทพจึงได้จัดสร้างเทวรูปพระพิฆเนศวรขึ้นจ่ายแจก โดยจำลองเทวรูปองค์ประธานในสถานพระพิฆเนศวร ซึ่งอยู่ในปริมณฑลของเทวสถาน “โบสถ์พราหมณ์”...ให้เล็กลงขนาดเหมาะสมสำหรับตั้งบูชาและห้อยคอ...!!!
พระ พิฆเนศวร...เป็นเทพในศานาพราหมณ์ (โอรสของพระอิศวรกับพระแม่อุมาเทวี กายเป็นมนุษย์เศียรเป็นช้าง) เจ้าแห่งความรู้ ผู้ปราดเปรื่องทุกแขนงในศิลปวิทยา เป็นหัวหน้าคณะข้ามความขัดข้อง สามารถปลดปล่อยอุปสรรคทั้งปวง
ด้วยนาม “พิฆน” หมายถึง อุปสรรค “อีศ” หรือ “อิศวร” คือผู้ยิ่งใหญ่ พิฆเนศวร จึงหมายถึง ผู้เป็นใหญ่เหนืออุปสรรคทั้งปวง คือ...ผู้ขจัดอุปสรรค นั่นเอง...!!!
คน ไทยนับถือว่าพระพิฆเนศวรเป็นที่เคารพสักการะในฐานะเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ในทุกศาสตร์สรรพสิ่ง เป็นองค์บรมครูแห่งศิลปวิทยาการ 18 ประการ และเป็นองค์สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ใน แนวปฏิบัติทางพราหมณ์ได้สถาปนาพระพิฆเนศวรเป็นเทพองค์แรกที่ต้องบูชาก่อน เริ่มพิธีใดๆ
เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังร่วมพิธีกรรม
องค์ พระพิฆเนศวรอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ดูจากหลักฐานการพบรูปสลักตามเทวสถานที่เก่าแก่ต่างๆตั้งแต่สมัยขอมเรือง อำนาจในดินแดนสุวรรณภูมิ ปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้เป็นองค์ประกอบให้ พระราชครูวามเทพ ตัดสินใจ สร้างองค์พระพิฆเนศวรเป็นมงคลระลึก จ่ายแจกแก่ผู้ศรัทธาเลื่อมใส
และ...ก็มิใช่เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้นทางเทวสถาน “โบสถ์พราหมณ์” ได้สร้างขึ้นมาหลายรุ่นก็ได้รับความนิยมด้วยพิธีกรรมทุกขั้นตอนดำเนินภายใน เทวสถานฯแห่งนี้ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ...ผู้ที่ได้รับแจกจึงมีประสบการณ์ต่างๆในความขลัง
สำหรับการสร้าง พระพิฆเนศวรรุ่นนี้ก็เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2555 พระมหาราชครูฯ เป็นผู้ทำพิธีเสกน้ำเทพมนต์ชุบโลหะและเททองหล่อชนวนนำฤกษ์ ซึ่งวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้จะประกอบพิธีเทวาภิเษก อันเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะจ่ายแจก...โดยเริ่มตั้งแต่ 13.00 น.เป็นต้นไป
(...การ กำหนดฤกษ์วันมิได้ข้องเกี่ยวกับประเพณีอื่นใดๆ ได้ถือตามเทวกำหนดว่า วันขึ้น 4 ค่ำ หรือ แรม 4 ค่ำของเดือนๆ ถือเป็นวันคล้ายวันเกิดประจำเดือนของพระพิฆเนศวร ส่วนวันคล้ายวันเกิดประจำปี หรือคเณศจตุรศรี ถือเอาในเดือน 10 และคล้ายวันเกิดของเดือน 3 ขึ้น 4 ค่ำปีนี้ ประจวบเหมาะตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์พอดี....)
หลัง พิธีกรรมทางเทวะ ถือว่าแล้วเสร็จครบถ้วน จึงมีการเฉลิมฉลององค์พระพิฆเนศวรจำลององค์ประธานที่ระลึกปฏิสังขรณ์ เทวสถานฯ ในเวลา 19.09 น. ซึ่งครั้งแรกเหล่าศิษย์ขอให้จัดพิธีกรรม “โหมกูณฑ์บูชาไฟ” แต่พระราชครูวามเทพเห็นว่าไม่เหมาะสม...ด้วยเป็นราชพิธี
...จึง ให้จัดสมโภชด้วยการ “เดินเทียน” อันเป็นการ ถวายบูชาประทีป นำด้วยพราหมณ์เดินทักษิณารอบ 3 โบสถ์ฯ 3 รอบ (ทางพุทธฯนับเป็นพระรัตนตรัย สำหรับพราหมณ์ถือบูชาพระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม...3 องค์เช่นกัน)
พิธีกรรม นี้สามัญชนสามารถเข้าร่วมได้ โดยมิเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ แถมได้ รับพลังบารมีจากเทวะอย่างเต็มเปี่ยมด้วยความสำเร็จ...ขึ้นอยู่กับจิตที่ อธิษฐาน...!!
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น