[เหนือฟ้าใต้บาดาล] วัดโคกสว่าง...ฉลองพัดยศ ยกขันดอกไม้หมากเป็ง...สืบสานบุญ

[เหนือฟ้าใต้บาดาล] วัดโคกสว่าง...ฉลองพัดยศ ยกขันดอกไม้หมากเป็ง...สืบสานบุญ



ครูบาบุญคุ้ม ปสันโน
พัดยศ....คือ ตาลปัตรที่พระมหากษัตริย์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ถือว่าเป็นเครื่องราชสักการะอย่างหนึ่งสำหรับ ถวายแด่ภิกษุผู้มีฐานันดรในคณะสงฆ์ ซึ่งมีชื่อเรียกและลักษณะแตกต่างกันไปตามศักดิ์
ภิกษุรูปใดที่ได้รับพระ ราชทาน “พัดยศ” ถือว่าได้รับเกียรติอย่างสูงในชีวิตของสมณเพศ เหล่าฆราวาสจึงร่วมแสดงความชื่นชมยินดี ส่วนจะแบบไหนลักษณะใด.....นั่นก็แล้วแต่...!!



พิธีกรรมในวัดโพธิสัตว์บรรพนิมิต กาญจนบุรี

พิธีกรรมในวัดโพธิสัตว์บรรพนิมิต กาญจนบุรี
O O O
ทุกๆ ปี....วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีการพระราชทานพัดยศตามฐานะแก่ภิกษุสงฆ์ทั่วราชอาณาจักร เมื่อปีที่ผ่าน (5 ธันวาคม 2555) พระครูอรุณปัญญาวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดโคกสว่าง (บ้านโคกสูง-บ้านอ่างสมบูรณ์) ต.สามัคคี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ได้รับโอกาสในครั้งนี้
....ฐานะที่ได้รับพระราชทานในครั้งนี้ สร้างความปีติยินดีให้กับชาวตำบลสามัคคี เป็นอย่างยิ่ง ครูบาบุญคุ้ม ปสันโน เจ้าอาวาสวัดโพธิสัตว์บรรพนิมิต กาญจนบุรี สหายธรรมผู้เป็นกัลยา-ณมิตร จึงร่วมกับชาวบ้าน บ้านโคกสูง-บ้านอ่าง–สมบูรณ์ จัด พิธีกรรมเฉลิมฉลอง
โดย กำหนดฤกษ์เอาช่วงที่ดาวจันทร์เสวยดาวเรวดี นักษัตรฤกษ์ที่ 19 ทลิทโทฤกษ์ต่อด้วยมหันธโณฤกษ์ ซึ่ง ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ องค์ผู้พระราชทานพัดยศ...
O O O
พระครูอรุณปัญญาวัฒน์

พระครูอรุณปัญญาวัฒน์
พระ ครูอรุณปัญญาวัฒน์ อายุ 55 ปี 16 พรรษา เป็นชาวยโสธรโดยกำเนิด เป็นสงฆ์นักพัฒนาด้านการศึกษา ธรรมปฏิบัติ และศาสนสถานมาอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสแก่ชาวบ้านทั้งไกลใกล้
ครูบาบุญคุ้ม ปสันโน สหายธรรมท่านนี้เป็นชาวยโสธรเช่นกัน เข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ตั้งแต่อายุ 12 ปี เป็นสามเณรอยู่กับ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดภูจ้อก้อ มุกดาหาร ศึกษาและปฏิบัติธรรมกรรมฐานจนแตกฉาน
แล้วจึงได้รับอนุญาตให้ออกธุดงค์ได้ โดยช่วงแรกนั้น มุ่งสู่ภูเขาควาย ซึ่งอริยสงฆ์แห่งอีสาน
ในอดีตจะต้องผ่านพื้นที่แห่งนี้ เพราะถือว่าเป็นดินแดนอาถรรพณ์ อัศจรรย์ด้วยหลายภพภูมิ เป็นการทดสอบในความเข้มขลังแห่งสมาธิจิต
O O O
จาก นั้นจึงได้ธุดงค์ต่อไปยังแผ่นดินล้านนาถึงเชียงใหม่ได้เรียนรู้ศาสตร์ทิพย จักขุญาณจาก หลวงปู่หล้า จันโท (หลวงปู่หล้า ตาทิพย์) วัดป่าตึง สันกำแพง เชียงใหม่ แล้วจึงลงสู่จังหวัดลำปาง เป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อเกษม เขมโก ณ สุสานไตรลักษณ์ ปรนนิบัติรับใช้อยู่ระยะหนึ่ง
.....ซึ่งได้นำเอาศาสตร์ และหลักธรรมต่างๆที่ได้มาจากอริยสงฆ์ทั้งอีสานและเหนือผู้เป็นอาจารย์มาร่วม พิจารณา ตั้งอธิษฐานจิตบารมีขอให้เกิดปาฏิ-หาริย์อย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้เกิดความ เลื่อมใส...
แล้ว....จะขอบวชไปตลอดชีวิต และก็ได้สัมผัสกับอิทธิปาฏิหาริย์ดั่งตั้งอธิษฐานจิต จึงตัดสินใจลงมาบวช ณ วัดศรีมงคลเหนือ จังหวัดมุกดาหาร ในปี 2539 หลัง พระครูอรุณปัญญาวัฒน์ อุปสมบท 2 ปี
ผู้เลื่อมใสใส่ดอกไม้บาตรครูบาฯ

ผู้เลื่อมใสใส่ดอกไม้บาตรครูบาฯ
O O O
จาก การบ่มเพาะของอาจารย์ซึ่งเป็นอริยสงฆ์ ภายใต้จิตสำนึกของครูบาบุญคุ้ม ก่อนจะตัดสินใจหรือพบกับสิ่งใดกับวิถีชีวิต จะเกิดจิตสัมผัสให้ได้ล่วงรู้ก่อน หรือที่เรียกว่า...สัมผัสที่ 6
ครั้ง หนึ่งจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานถึงภูมิในอนาคตและได้เห็นภาพว่าตนเองเป็นสมภารวัด แห่งหนึ่งในภาคตะวันตก จึงได้ธุดงค์จากอุบลราชธานีมาทางสุรินทร์ แล้วก็เดินทางเรื่อยๆจนถึง พระแท่นดงรัง กาญจนบุรี ซึ่งตอนแรกก็คิดอยากจะสร้างสำนักสงฆ์ที่นั่น แต่ในจิตสัมผัสบอกว่าไม่ใช่...ในที่สุดก็มีคนมาขัดขวางเป็นจริงอย่างในจิต สัมผัส
เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ ครูบาบุญคุ้ม เกิดความไม่สบายใจ แม้ว่าจะเคยเห็นภูมิตนเองในอนาคตซึ่งได้เป็นสมภารแต่ทำไมจึงโดนขัดขวาง ในสำนึกว่าพลังไม่เข้มขลังพอ จิตว้าวุ่นถึง ขั้นอยากลาสิกขา
ท่ามกลาง ความสับสนได้สวดมนต์นั่งสมาธิเพื่อสลาย แล้ว เกิดสัมผัสเห็นตนเองนั่งอยู่หน้าพระประธานองค์ใหญ่สีทองอร่ามส่องแสงสะท้อน เข้าสู่ตนเอง เกิดสัมผัสกับความเยือกเย็นอย่างผิดปกติ
O O O
รุ่ง เช้า...ขณะออกบิณฑบาตได้พบกับสงฆ์กลุ่มหนึ่งผ่านมา บอกว่าจะเดินทางไปนมัสการหลวงพ่ออุตตมะแล้วชักชวนจึงตัดสินใจร่วมคณะ ขณะที่เดินทางรอนแรมนั้นไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไร พระเพื่อนๆเหล่านั้นหายกันไปหมดเหลือเพียงครูบาบุญคุ้มเพียงรูปเดียว...คือ หลงทางแตกกลุ่ม (โดยที่คณะสงฆ์นั้นเดินทางถึงจุดหมายที่วัดหลวง-พ่ออุตตมะ)
...... แล้วลุถึงสะพานพระสังฆราช จึงเสี่ยงทายว่า...หากมีบุญบารมีขอให้ได้ที่จำวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ เหมาะสม จากนั้นก็ธุดงค์ต่อไปทางตำบลหนองหญ้า พบกับ ยายแกะนั่งกินหมากอยู่บอกว่าหลังเขานั้นมีที่ทางเป็นป่าร้างที่จะไป
ปักกลดจำศีลได้
ตาม คำแนะนำของยายแกะ จึงเดินลัดเลาะไปปักกลดสร้างกุฏิเล็กๆ แต่ก็ยังมี อุปสรรคด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานมาขับไล่ ซึ่ง ครูบาบุญคุ้มบอกว่าไม่ได้เข้ามาทำลาย หรือบุกรุก เพียงแต่หาพื้นที่สงบเพื่อปฏิบัติธรรมเท่านั้น
O O O
ชาว บ้านรู้ข่าว....จึงนิมนต์ให้อยู่ต่อและมีรายหนึ่งยกที่ดินเป็นสวนถูกทิ้ง ร้างให้ 3 ไร่ อันเป็น ปฐมบทในการสร้างสำนักสงฆ์โพธิสัตว์บรรพนิมิต โดยใช้เวลา เพียง 3 ปี ก็สร้างอาคารเพื่อประกอบศาสนกิจได้อย่างครบถ้วน....ปัจจุบันเป็นวัดอย่างถูก ต้องตามกฎหมาย
แม้จะอยู่ห่างกันคนละจังหวัดพันกว่ากิโลเมตร ....ครูบาบุญคุ้ม กับ พระครูอรุณปัญญาวัฒน์ ก็ยังเป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกัน มีความนับถือกันเป็นสหายธรรม กิจในการฉลองพัดยศให้ในครั้งนี้ ครูบาบุญคุ้มได้กำหนดการไว้ 3 วัน คือตั้งแต่ 26 กรกฎาคม จัด ให้ชาวบ้านมีการร่วมกุศล โดยการ บวชเนก- ขัมมะ รุ่งขึ้นอีกวันมีเทศนาพระธรรมจากสงฆ์ที่ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธา ทั้งของยโสธรและจังหวัดใกล้เคียงหลายรูป
28 กรกฎาคม จัดแห่ขันดอกไม้หมากเป็ง (พิธีกรรมพื้นเมืองอีสาน รูปแบบคล้ายๆกับแห่เครื่องบายศรีถวายแด่พระพุทธเจ้า) กับพุทธาภิเษก ผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ...ได้บุญฟรีๆและเต็มๆ.!!!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น