เปิดตำนาน พยากรณ์ 2557 อ.นพ หงายสิ่งคว่ำส่องสว่างที่มืด [เหนือฟ้าใต้บาดาล]
เปิดตำนาน พยากรณ์ 2557 อ.นพ หงายสิ่งคว่ำส่องสว่างที่มืด [เหนือฟ้าใต้บาดาล]
อาจารย์นพมอบลิขสิทธิ์ให้พระครูไพรัตน์.
อิทธิพลของดวง ดาว...สามารถสำแดงพลังให้ประจักษ์ เป็นรูปธรรมได้ในสุริยจักรวาล โดย...บริวารทั้ง 9 ดวงจะขับเคลื่อนไปตามวิถี แล้วทำมุมองศาซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างๆขึ้นในกลุ่มสมาชิกแห่งจักรวาล โดยเฉพาะบนโลกใบนี้ซึ่งบันดาลให้ทั้งผลดีและผลร้าย
.....หลายพันปีมา แล้วมนุษย์ผู้ชาญฉลาดได้ทำการศึกษาถึงสถานการณ์ ต่างๆอันเป็นผลพวงมาจากแรง การขับเคลื่อนของดวงดาวทั้งหลายที่ส่งพลังทั้งขั้วบวกขั้วลบ เป็นข้อมูลสำคัญเพื่อนำมา คาดคะเนในการหยั่งรู้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต...ทั้งใกล้และไกล... หลายพันปี กับพื้นฐานข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งมนุษยชาติได้สืบสานถ่ายทอดความรู้จนเป็นศาสตร์ และได้กำหนดดาวแต่ละดวงเป็นเทพเจ้าหรือเทวดาที่มีชีวิตและวิญญาณ ซึ่งแต่ละองค์ก็มีอุปนิสัยที่ผิดแผกกันไปเฉกเช่นสันดานของปุถุชน นั่นก็หมายถึง ความดี เลว ร้าย และ มีคุณธรรม
.....เทพฯ แต่ละองค์จะหมุนเวียนโคจรไปตามเรือนพักร มีพิกัดปริมณฑลเป็นวงรอบ 12 ราศี เป็นรายเดือน ใน 360 องศา ก็จะเป็นหนึ่งในฐานข้อมูลที่ เอามาคำ-นวณหรือกำหนดกฎเกณฑ์ว่า ช่วงแห่งคาบเวลานั้นๆ “เทพฯ” องค์ใดส่งหรือแผ่อิทธิพลดี–ร้าย แรงหรือแผ่วเบา....อะไรเทือกนั้น
นอก จากนี้.....มนุษย์ผู้หยั่งรู้ยังเอานักษัตรหรือสัตว์ประจำปี ซึ่งมีอุปนิสัยแตกต่างกันกับธรรมชาติของมัน เข้ามาร่วมเป็นปัจจัยมูลฐานองค์ประกอบ ในการคาดคะเนหรือพยากรณ์ด้วย... รวมๆกันแล้วเป็น ศาสตร์พยากรณ์
ศาสตร์พยากรณ์
....โดย ใช้ข้อมูลจากดวงดาวนี้สืบสานกันมาอย่างยาวนาน แต่จะขนาดไหนนั้นไม่มีใครกล้าฟันธง แต่ที่เราได้รับรู้โดยทั่วๆไป ก็เป็น อย่างเช่น ดวงกำเนิดของมนุษย์แต่ละท่านมีดาวอะไรอยู่ราศีใด ลัคนา (ลั) ราศีไหน ในดวงนั้นๆมีอุจเกษตรหรือประกี่ดวง ซึ่งพื้นฐานของดวงที่เรียกว่า “ผูกดวง” นี้ จะติดตัวไปกับแต่ละบุคคล ตั้งแต่เกิดจนถึงแก่เฒ่าและสิ้นอายุขัยในจุดสุดท้ายของชีวิต..... ความ เชื่อในศาสตร์พยากรณ์....แม้ เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ พระ เจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดายังอัญเชิญ 8 พราหมณ์ปุโรหิตที่เป็นโหราจารย์มาพยากรณ์วิถีชีวิตพระกุมาร ในจำนวนนี้มี ท่านโกณฑัญญะ ร่วมอยู่ด้วย
ซึ่ง..... คำพยากรณ์คือเติบโตขึ้นจะเป็นจักรพรรดิที่เกรียงไกร กับจะทรงผนวชแล้วตรัสรู้เป็นบรมศาสดาเอกของโลก ความแตกต่างเป็น 2 คติความเชื่อ ท่านโกณฑัญญะมั่นใจในคำทำนายของตน และเกิดศรัทธา จึงออกบวชรอปรนนิบัติ เมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้เป็นพระ พุทธเจ้า จึงได้ถวายตนเป็นศิษย์และเป็นสาวกองค์แรกแห่งพระพุทธศาสนา
ซึ่งถือว่าเป็น โหรที่มีความแม่นยำมากในยุคนั้น กาลเวลาได้ล่วงเลยมากว่า 25 ศตวรรษ ศาสตร์พยากรณ์ก็ยังมีการถ่ายทอดและสืบสานกันต่อๆมาจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งอาจมีผิดเพี้ยนในวิธีการไปบ้าง ทั้งแจงข้อมูล วิเคราะห์ ฯลฯ อาจไม่เหมือนอดีต เพราะด้วยระยะทางที่ยาวไกล.....แต่ความแม่นยำอาจไม่แตกต่างหรือแพ้กันโดย สิ้นเชิงก็ได้ อย่างเช่น อาจารย์นพ โพธิรักษ์ โหรใหญ่ไทยรัฐ คาบเวลานี้สังคมหรือพวกแฟนคลับ ต่างเลื่อมใสและมั่นใจในคำพยากรณ์ว่า....แม่นเหมือนตาเห็น...!!! อาจารย์ นพ.....อยู่ในวัย 86 ปี (เกิด 1 มกราคม 2470) เป็นศิษย์หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ได้ศึกษาโหราศาสตร์ตามแนวดวงดาวพยากรณ์ตั้งแต่ครั้งเป็นสามเณร แบบมิได้เปิดเป็นคอร์สสอน เพียงแต่ใกล้ชิดและด้วยความสนใจ จึงเรียนรู้ไปอย่างช้าๆแบบ ครูพักลักจำ....ทำนองนั้น
กว่า 7 ทศวรรษ ทั้งที่อยู่ในเพศบรรพชิตและฆราวาส ได้ใช้ความรู้ที่ได้มาบริการมนุษย์สังคมอย่างต่อเนื่อง โดยพยากรณ์ วิถีชีวิต สถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม การเมืองและภัยธรรมชาติ ตามเส้นทางลิขิตดวงดาว....ควบคู่กับการเป็นเจ้าพิธีกรรมต่างๆ ทั้งในทางพุทธและพราหมณ์... ปัจจุบัน....ยังเขียนคำพยากรณ์ลงตีพิมพ์ ใน “หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” จากประสบการณ์อันยาวนานความแม่นยำยิ่งเพิ่มพูน โดยในการแจ้งเตือนต่อภัยมิให้ประมาท แนะแนวปฏิบัติมิให้หลงทาง เลี่ยงหลีกอุปสรรคเพื่อผ่อนหนัก เป็นเบา ได้อย่าง แม่นยำจนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา จึงรับฉายาว่าเป็น...ผู้หงายสิ่งที่คว่ำ ทำความสว่างในที่มืด...!!! วัดสมานรัตนาราม ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา โดย พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ “ไพรัตน์ ปญฺญาธโร” เจ้าอาวาส ได้มุ่งหวังที่จะให้เป็น ศาสนสถานอันเป็นสาธารณะบริการที่สมบูรณ์แบบ ที่ผ่านมานอกจากจะสร้าง ศูนย์ปฏิบัติธรรม และ เทวศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้สักการบูชาสนองความเลื่อมใสแล้ว ....ยังมี โครงการสร้างโรงพยาบาล (150 เตียง) ภายในเขตปริมณฑลของวัดฯ เพื่อใช้บริการบำบัดรักษาโรคให้กับผู้เจ็บป่วยไข้ที่ผู้ยากไร้ให้พ้นห้วง แห่งทุกข์ เป็นการ สร้างมหากุศล ในอีกหนึ่งปัจจัย
ซึ่ง สอดคล้องกับ อาจารย์นพ โพธิรักษ์ ที่มีจิตกุศลเป็นพื้นฐาน จึงอุทิศเวลากว่า 6 เดือนในการเขียนคำพยากรณ์ (เพราะเขียนแล้วต้องมาวิเคราะห์ขัดเกลา เพื่อให้เกิดความแม่นยำ ทั้งในด้านความรัก การงาน การเงิน โชคลาภ อุบัติภัย เคราะห์กรรมและคำนวณเลข) ออกมาเป็น ตำราแห่งปี 2557 ร่วมสมทบกองทุนในการสร้างโรงพยาบาล.... ...หลังพิมพ์เสร็จเป็นเล่ม สมบูรณ์แล้ว ก็ยังเอาหนังสือเหล่านี้ อันเป็นตำนานศาสตร์แห่งโหรแห่งปีเข้าพิธีกรรมปลุกเสก ณ วัดสมานฯ ก่อนนำวางตาม ร้านสะดวกซื้อ ทั้งหลาย... ...เพื่อให้เป็น เข็มทิศบอกทาง ในการดำเนินชีวิตบนเส้นทาง ปลอดภัยโดยไม่ประมาท...!!
.....หลายพันปีมา แล้วมนุษย์ผู้ชาญฉลาดได้ทำการศึกษาถึงสถานการณ์ ต่างๆอันเป็นผลพวงมาจากแรง การขับเคลื่อนของดวงดาวทั้งหลายที่ส่งพลังทั้งขั้วบวกขั้วลบ เป็นข้อมูลสำคัญเพื่อนำมา คาดคะเนในการหยั่งรู้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต...ทั้งใกล้และไกล... หลายพันปี กับพื้นฐานข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งมนุษยชาติได้สืบสานถ่ายทอดความรู้จนเป็นศาสตร์ และได้กำหนดดาวแต่ละดวงเป็นเทพเจ้าหรือเทวดาที่มีชีวิตและวิญญาณ ซึ่งแต่ละองค์ก็มีอุปนิสัยที่ผิดแผกกันไปเฉกเช่นสันดานของปุถุชน นั่นก็หมายถึง ความดี เลว ร้าย และ มีคุณธรรม
....โดย ใช้ข้อมูลจากดวงดาวนี้สืบสานกันมาอย่างยาวนาน แต่จะขนาดไหนนั้นไม่มีใครกล้าฟันธง แต่ที่เราได้รับรู้โดยทั่วๆไป ก็เป็น อย่างเช่น ดวงกำเนิดของมนุษย์แต่ละท่านมีดาวอะไรอยู่ราศีใด ลัคนา (ลั) ราศีไหน ในดวงนั้นๆมีอุจเกษตรหรือประกี่ดวง ซึ่งพื้นฐานของดวงที่เรียกว่า “ผูกดวง” นี้ จะติดตัวไปกับแต่ละบุคคล ตั้งแต่เกิดจนถึงแก่เฒ่าและสิ้นอายุขัยในจุดสุดท้ายของชีวิต..... ความ เชื่อในศาสตร์พยากรณ์....แม้ เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ พระ เจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดายังอัญเชิญ 8 พราหมณ์ปุโรหิตที่เป็นโหราจารย์มาพยากรณ์วิถีชีวิตพระกุมาร ในจำนวนนี้มี ท่านโกณฑัญญะ ร่วมอยู่ด้วย
ซึ่ง..... คำพยากรณ์คือเติบโตขึ้นจะเป็นจักรพรรดิที่เกรียงไกร กับจะทรงผนวชแล้วตรัสรู้เป็นบรมศาสดาเอกของโลก ความแตกต่างเป็น 2 คติความเชื่อ ท่านโกณฑัญญะมั่นใจในคำทำนายของตน และเกิดศรัทธา จึงออกบวชรอปรนนิบัติ เมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้เป็นพระ พุทธเจ้า จึงได้ถวายตนเป็นศิษย์และเป็นสาวกองค์แรกแห่งพระพุทธศาสนา
ซึ่งถือว่าเป็น โหรที่มีความแม่นยำมากในยุคนั้น กาลเวลาได้ล่วงเลยมากว่า 25 ศตวรรษ ศาสตร์พยากรณ์ก็ยังมีการถ่ายทอดและสืบสานกันต่อๆมาจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งอาจมีผิดเพี้ยนในวิธีการไปบ้าง ทั้งแจงข้อมูล วิเคราะห์ ฯลฯ อาจไม่เหมือนอดีต เพราะด้วยระยะทางที่ยาวไกล.....แต่ความแม่นยำอาจไม่แตกต่างหรือแพ้กันโดย สิ้นเชิงก็ได้ อย่างเช่น อาจารย์นพ โพธิรักษ์ โหรใหญ่ไทยรัฐ คาบเวลานี้สังคมหรือพวกแฟนคลับ ต่างเลื่อมใสและมั่นใจในคำพยากรณ์ว่า....แม่นเหมือนตาเห็น...!!! อาจารย์ นพ.....อยู่ในวัย 86 ปี (เกิด 1 มกราคม 2470) เป็นศิษย์หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) ได้ศึกษาโหราศาสตร์ตามแนวดวงดาวพยากรณ์ตั้งแต่ครั้งเป็นสามเณร แบบมิได้เปิดเป็นคอร์สสอน เพียงแต่ใกล้ชิดและด้วยความสนใจ จึงเรียนรู้ไปอย่างช้าๆแบบ ครูพักลักจำ....ทำนองนั้น
กว่า 7 ทศวรรษ ทั้งที่อยู่ในเพศบรรพชิตและฆราวาส ได้ใช้ความรู้ที่ได้มาบริการมนุษย์สังคมอย่างต่อเนื่อง โดยพยากรณ์ วิถีชีวิต สถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม การเมืองและภัยธรรมชาติ ตามเส้นทางลิขิตดวงดาว....ควบคู่กับการเป็นเจ้าพิธีกรรมต่างๆ ทั้งในทางพุทธและพราหมณ์... ปัจจุบัน....ยังเขียนคำพยากรณ์ลงตีพิมพ์ ใน “หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” จากประสบการณ์อันยาวนานความแม่นยำยิ่งเพิ่มพูน โดยในการแจ้งเตือนต่อภัยมิให้ประมาท แนะแนวปฏิบัติมิให้หลงทาง เลี่ยงหลีกอุปสรรคเพื่อผ่อนหนัก เป็นเบา ได้อย่าง แม่นยำจนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา จึงรับฉายาว่าเป็น...ผู้หงายสิ่งที่คว่ำ ทำความสว่างในที่มืด...!!! วัดสมานรัตนาราม ตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา โดย พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ “ไพรัตน์ ปญฺญาธโร” เจ้าอาวาส ได้มุ่งหวังที่จะให้เป็น ศาสนสถานอันเป็นสาธารณะบริการที่สมบูรณ์แบบ ที่ผ่านมานอกจากจะสร้าง ศูนย์ปฏิบัติธรรม และ เทวศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้สักการบูชาสนองความเลื่อมใสแล้ว ....ยังมี โครงการสร้างโรงพยาบาล (150 เตียง) ภายในเขตปริมณฑลของวัดฯ เพื่อใช้บริการบำบัดรักษาโรคให้กับผู้เจ็บป่วยไข้ที่ผู้ยากไร้ให้พ้นห้วง แห่งทุกข์ เป็นการ สร้างมหากุศล ในอีกหนึ่งปัจจัย
ซึ่ง สอดคล้องกับ อาจารย์นพ โพธิรักษ์ ที่มีจิตกุศลเป็นพื้นฐาน จึงอุทิศเวลากว่า 6 เดือนในการเขียนคำพยากรณ์ (เพราะเขียนแล้วต้องมาวิเคราะห์ขัดเกลา เพื่อให้เกิดความแม่นยำ ทั้งในด้านความรัก การงาน การเงิน โชคลาภ อุบัติภัย เคราะห์กรรมและคำนวณเลข) ออกมาเป็น ตำราแห่งปี 2557 ร่วมสมทบกองทุนในการสร้างโรงพยาบาล.... ...หลังพิมพ์เสร็จเป็นเล่ม สมบูรณ์แล้ว ก็ยังเอาหนังสือเหล่านี้ อันเป็นตำนานศาสตร์แห่งโหรแห่งปีเข้าพิธีกรรมปลุกเสก ณ วัดสมานฯ ก่อนนำวางตาม ร้านสะดวกซื้อ ทั้งหลาย... ...เพื่อให้เป็น เข็มทิศบอกทาง ในการดำเนินชีวิตบนเส้นทาง ปลอดภัยโดยไม่ประมาท...!!
ก้อง กังฟู
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น