เหนือฟ้าใต้บาดาล ใต้พิภพ

ซึเหวยทั้งเย้า เก้าอ๊วงเจ เสริมความขลังเทศกาลกินผัก

กิจต่างๆในเทศกาลกินเจเสริมสร้างความขลัง.

เก้าอ๊วงเจ...หนึ่งในกิจของ พุทธศาสนมหายาน...

ซึ่ง...ชาว จีนได้กำหนดเอาช่วงระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 9 ถึงขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 (ตามปฏิทินจีน) ปฏิบัติสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานจนกลายเป็น วัฒนธรรม และประเพณี ปีนี้ตรงกับ 5 ถึง 13 ตุลาคม
โดย เชื่อกันว่า 9 วันของเทศกาลนี้เป็นการสักการบูชาพระพุทธเจ้า 7 พระองค์ กับพระโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ (นัยหนึ่งว่าเป็นเทพ 9 องค์มีพระอาทิตย์ พระจันทร์...จนถึงราหูและพระเกตุ)
โดยมีอรรถว่า...กาลหนึ่ง สมเด็จพระพุทธเจ้า ทรงประทับ ณ ศิวาลัยรัตนสถาน ท่ามกลาง ท้าวมหาพรหม ท้าวสักกะ เทพยเจ้า ยักษ์ นาค คนธรรพ์ กินนร... ฯลฯ


พระมัญชุ ศรี...ได้ตรัสถามสมเด็จพระบรมศาสดาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญอัน พระเทพสัตตเคราะห์ทั้ง 7 พระองค์ มีกุศลสะสมหรือปัจจัยเหตุอย่างไร จึงได้เสวยทิพย์ผลรุ่งเรืองเพียบพร้อมบนเทวภพนี้
จึงมี พุทธดำรัส ว่า ...ดูกรมัญชุศรี เทพพระเคราะห์ทั้ง 7 แท้จริงเป็นพระอวตารภาพแห่งอดีตพระพุทธทั้ง 7 ทรงแบ่งภาค มาแสดงให้ปรากฏ และ พระโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ ก็แบ่งภาคเป็นราหูกับดาวเกตุ รวมเป็นดาวพระเคราะห์ ทั้ง 9...จึงสมบูรณ์อลังการแห่งยศและอำนาจ

เก้า อ๊วงเจ...ที่จีนเริ่มมาประมาณ 400 กว่าปี โดยช่วงนั้นแมนจูเข้ามาปกครองจึงบังคับให้ยอมรับวัฒนธรรมของตน จากนั้นจึงไหลจากแผ่นดินใหญ่เข้าสู่สยามและได้ถือปฏิบัติมาด้วยศรัทธาแม้ว่า จะมั่นในเถรวาทนิกายหรือหินยาน อารยธรรมก็สามารถเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกันอย่างไร้รอยต่อ

ทั่วราช อาณาจักรไทยจะจัดพิธีกรรมทำบุญกินเจกันตั้งแต่ภาคใต้จดเหนือ เล็กใหญ่ขึ้นอยู่กับกำลังแห่งองค์ประกอบแต่ละท้องถิ่น สำหรับในกรุงเทพฯขึ้นหน้าขึ้นตาก็ ย่านเยาวราช ที่เรียกกันว่า China Town

ผู้ สืบสานปฏิบัติต่างสละกิจโลกียวัตร บำเพ็ญศีลสมาทาน กินเจ (อาหารมังสวิรัติ และงดผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด) ไม่กระทำกิจใดๆอันนำมาถึงความเบียดเบียนเดือดร้อนแก่สัตว์ทั้งปวง
(...ไม่เอาชีวิตสัตว์มาเติมต่อบำรุงชีวิตของเรา ไม่เอาเลือดเนื้อสัตว์มาเป็นเลือดของเรา ไม่เอาเนื้อสัตว์ มาเป็นเนื้อของเรา...)

ชีวิต สัตว์ก็เหมือนกันกับชีวิตเรา.....เมื่อตายก็ต้องพลัดพรากคู่หรือสิ่งที่เขา เคยเป็น หากถูกฆ่าจะตกใจกลัว เจ็บปวดและ ทรมานก่อนจะสิ้นใจ ซึ่งเป็นทุกข์ หากงดเว้นที่จะกินเนื้อสัตว์เป็นการช่วยให้ชีวิตเป็น 10 เป็น 100 เป็น 1,000 รอดจากการตาย...ถือเป็นบุญ

...ชีวิตหลายหลากยั่งยืน แต่กับหนึ่งชีวิตคือตัวเรา (บางราย) อาจอยู่ในห้วงอันตราย (ช่วงกินเจ อาหารนอกจากพืชแล้ว องค์ประกอบอื่นๆส่วนใหญ่ จะเป็นแป้ง น้ำมันและน้ำตาล ซึ่งมีผลกระทบต่อโรคประจำตัวผู้ป่วยบางราย ทำให้กำเริบได้...)
ซินแส เหมิง อาจารย์นักแปลตำราศาสตร์พยากรณ์จีน ผู้เชี่ยวชาญกังไส ได้ปรุงเม็ดถั่วให้มีสรรพคุณทางยาและมีคุณประโยชน์เทียมเท่าเนื้อสัตว์ โดยไม่ผิดเจตนาของการรักษาศีลและประเพณีของเก้าอ๊วงเจ
ซินแสเหมิ ง...เกิดในเมืองไทยได้ศึกษาศาสตร์ต่างๆจากเมืองจีนจนแตกฉาน เดิมเปิดร้าน มิง ชิง ถัง อยู่เลขที่ 552-554 หัวถนนเยาวราช ย่านแยกเฉลิมบุรี จำหน่ายกังไสโดยนำเข้าจากจีน

ต่อมาเห็นว่าเม็ดเงินไหลออกไปต่างประเทศ จึงพลิกกลับย้อนไปเปิดสาขาใน โรงแรมอี้เขียงหนาน ย่านเจี้ยงเซื่อเจีย มณฑลฉางชุน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยเอา เครื่องรางของขลังจากไทยไปโชว์ ให้คนจีนบูชาและเช่า...ซึ่งก็ได้รับความนิยม

ช่วง นั้นจึง...ไต้ซือ ท่านหนึ่งได้เอาตำรา ซึ เหวย ทั้ง เย้า (กินอาหารให้เป็นยา) มาให้ศึกษา โดยให้ เอาเม็ดถั่วมาเป็นตัวหลัก ผสมกับตัวยาจีนอีกราวๆ 20 กว่าชนิด หมักรวมกันใช้เวลาประมาณ 3 ปี กระทั่งโอสถสารซึมเข้าในเนื้อเม็ดถั่ว.....

ศาสตร์นี้เป็น ภูมิปัญญาซินแสจีนโบราณ ที่น่าพิศวงคือ การหมักที่ยาวนานเม็ดถั่วนั้นไม่ยุ่ยเพียงแต่เปลี่ยนเป็นสีดำ เคี้ยวยังเหนียวหนุบรสชาติมันๆเหมือนถั่วต้มธรรมดาๆ (โดยทั่วๆไปของหมักดองจะมีรสเปรี้ยวและเค็ม แต่ “ถั่วดำหมัก” นี้ไม่เปรี้ยวไม่เค็ม)

...และเมื่อ นำมาวิเคราะห์ในทางวิทยาศาสตร์ พบว่ามี โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และ โอเมก้า 9 เทียมเท่า เนื้อปลาทะเล ทั้งๆที่ไม่มีเนื้อสัตว์เจือปนในทุกขั้นตอนและกระบวนการผลิตเลย

ซึ่ง....คุณ ค่าทางโอสถสาร “โอเมก้า 3” มีความสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับและระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้และการมองเห็น ช่วยให้เกล็ดเลือดไม่แข็งตัวง่าย
....“โอเมก้า 6” ช่วยลดอาการปวดและอักเสบ รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง มีฤทธิ์ต้านอนุมูล บรรเทาอาการชาตามปลายมือปลายเท้า และ “โอเมก้า 9” ช่วย ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ บำรุงสมอง... ฯลฯ

การ นำ “ถั่วดำหมักสมุนไพรเสริมสุขภาพ” มาเผยแพร่ถือว่าเป็นการเสริมประเพณีการกินเจให้ยั่งยืนสืบต่อกันไปยาวนาน โดย มิต้องหวาดหรือแคลงใจว่าโรคประจำตัวบางอย่างจะกำเริบ หรือขาดอาหาร
ใน กิจนี้...ซินแสเหมิง มีแถม “พระสมเด็จ” กับ “หลวงปู่ทวด” ซึ่งสร้างและเข้าพิธีกรรม โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุค ถึง 108 รูป อย่างถูกต้องตามตำราอย่างครบถ้วน ณ วัดสุทธาราม ตากสินซอย 19

และ ยก วัตถุมงคลทั้ง 2 ชุดนี้ไปโชว์ที่มณฑลฉางชุนให้คนจีนเช่าโดยเฉพาะ ซึ่งด้านหลังทุกองค์ จะสลักเป็นภาษาจีนว่า เซิ่งเหา แปลว่า “ชนะ มั่งคั่ง” แต่ก็ได้กันไว้นิดๆ
...เสริมศรัทธาให้เพียง รายละองค์ และองค์ใดองค์หนึ่ง เท่านั้น...!!!