เหนือฟ้าใต้บาดาล ใต้พิภพ

หล่อพระประธาน...ทุ่งจันเสน นาคราช...แจกพระนางพญาฟรี

ความเลื่อมใส ไร้พรมแดน...!!

...... วันวานของวันวาน (15 มี.ค.) ณ พระอุโบสถวัดอรุณราชวนารามฯ พระเทพมงคลรังษี เจ้าอาวาสฯ ออกเป็นอุปัชฌาย์อุปสมบทให้กับ Mr.Guo Xu นักสังคมสงเคราะห์ผู้ให้ความอุปถัมภ์เลี้ยงดูเด็กด้อยโอกาสในกรุงปักกิ่ง กว่า 300 ราย.....โดยให้ฉายาว่า “สุภัทโท”

ภิกษุ Xu สุภัทโท....นอกจากจะเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งและใจบุญแล้ว อีกมุมก็เป็นนักการเมือง โดยเป็นผู้แทนสมาชิกสภาฉางชุน แรงจูงใจให้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เนื่องจากมาเที่ยวไทยย่านเยาวราชช่วง เทศกาลวันตรุษ และได้ซื้อ ล็อกเกต จากร้านหมิง ชิง ถัง (ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเทียนฟ้าย่านโอเดียน) ด้วย ติดใจในความงาม

O O O

บังเอิญ....ล็อกเกต ชิ้นนั้นเป็นเครื่องรางเทพจำแลงภมร ของ ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ อันอยู่ใน รูปลักษณ์ของศิลปะที่แฝงด้วยพุทธตำนาน และ ปริศนาธรรม หลังแปลความออกจึงเกิดความซาบซึ้ง....เชื่อว่า

“...บุรุษเพศหากได้บวช บุพการีจะอาศัยชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์...”

ด้วย ความเลื่อมใสหลังเดินทางไป สะสางกิจที่คั่งค้างแล้วเสร็จ จึงชักชวนเพื่อน คือ Mr.Xiao Ming Pai กับ Mr.Xiao Guong Shi มาร่วมอุปสมบทด้วยพร้อมๆกัน โดยได้รับความเอื้อเฟื้อจาก เด็กชายศุภมิตร ศรีสว่างวัฒน์ หรือ “น้องซันนี่” นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา เข้าบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อเป็นล่าม (จีนไทย) ขณะปฏิบัติธรรมและสร้างกิจกุศล

O O O

กระแส ความเลื่อมใสศรัทธาปัจจุบันแห่งยุค ได้เกิดแรงกระเพื่อมจากชนเชื้อสายแผ่นดินใหญ่เข้าสู่สยามประเทศอย่างไม่ขาด สาย และได้สร้างสัญลักษณ์ที่เด่นๆในหลายพิกัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นศาสตร์และสถานที่สำหรับประกอบศาสนกิจ

ดั่งที่ ริมบึงทวาราวดี จังหวัดนครสวรรค์.....ณ ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จะเห็นศาสนสถาน “ศาลเจ้านาคราช” ตามแบบสถาปัตยกรรมจีนอันเป็นศูนย์ ปฏิบัติธรรมราวกับเนรมิต และ ผู้รังสรรค์ท้องทุ่งให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แห่งนี้คือ นายณรงค์ศักดิ์ คูกิติรัตน์ ซึ่งคนทั่วๆไปรู้จักกันในนามว่า......อาจารย์แห้ว หมอดูเทวดา

O O O

อาจารย์ แห้วเป็นชาวจันเสนโดยกำเนิด ช่วงเด็กก็เฉกเช่นเด็กอื่นๆ อยู่ในวิถีสังคมของชาวนาธรรมดาๆคนหนึ่ง โดยไม่มีใครคิดว่าเมื่อเติบใหญ่จะเป็นผู้ร่วมจิตสร้างพลังในความเลื่อมใสได้ อย่างแกร่งกล้า ความพลิกผันอุบัติขึ้นเมื่ออายุ 8 ขวบ...

ตอนนั้นมี ความรู้สึกผิดปกติ เกิดสัญชาตญาณอันเร้นลับในสัมผัสที่ 6 เพียงแต่ใช้นิ้วมือสัมผัสก็สามารถหยั่งรู้ถึงอนาคต บอกเหตุและทายทักในชะตาชีวิตของมนุษย์โดยทั่วๆไปได้ แต่ก็มิได้แสดงออกมากนักในตอนนั้น ด้วยเกรงจะถูกกล่าวหาว่าอุตริ

จะ บอกก็แค่คนสนิทและคุ้นเคยว่าจะเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น แล้วพอถึงช่วงแห่งคาบเวลานั้นๆก็เป็นไปตามนั้นจริง จากปากต่อปากจึงมีผู้คนสนใจมาให้ พยากรณ์อยู่เป็นประจำ ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมถึงมัธยม กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่ง มิได้คิดค่าครูหรือค่าบริการเรียกว่าฟรี.......จึงมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก

และ...ด้วยความแม่นยำ เหล่าศิษยานุศิษย์จึงเรียกว่า “หมอดูเทวดา”

O O O

แม้ จะถูกตั้งฉายาอย่างนั่น...อาจารย์แห้วมักจะบอกกับเหล่าศิษย์อย่างไม่ยินดี ยินร้ายว่า.....“เราไม่ใช่เทวดาที่จะหยั่งรู้ไปทุกเรื่อง เราไม่ใช่ผู้วิเศษแต่อย่างใด เพียงเป็นผู้ชี้ทางชีวิตให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม”

....สิ่งที่เป็นอมตะสรณะ คือธรรมะจากองค์สิทธัตถะ....

ช่วง หนึ่งของชีวิต อาจารย์แห้วจึงได้เข้าสู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นภิกษุอยู่วัดโคกงาม ณ ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการพิสูจน์พลังแห่งศรัทธา  สามารถสร้างพระอุโบสถแล้วเสร็จภายใน 11 เดือน ถือว่าเป็นการประเดิมความสำเร็จได้อย่างยิ่งยวด..!!!

O O O

หลัง กลับสู่เพศฆราวาส.....เมื่อปี 2544 ได้นิมิตเห็นชาวจีนแก่ๆ คนหนึ่ง มาบอกให้อาจารย์ แห้วทำการบูรณะสร้างศาลเจ้าพ่อนาคราชหลังใหม่ ในพิกัดเดิมทดแทนที่ชำรุด

(ว่ากันว่า...ศาลแห่งนี้บรรพบุรุษของอาจารย์แห้วเป็นผู้สร้าง อายุ 4 ชั่วคน เป็นไม้หลังเล็กๆ)

ช่วง แรกๆ อาจารย์แห้ว ก็ยังไม่รับปาก (ในฝัน) แต่ก็เกิดนิมิตแบบเดิมๆหลายครั้ง อดรนทนไม่ได้ จึงจุดธูปอธิษฐานว่า....ถ้าองค์ท่านมีตัวตน จริงขอปรากฏให้เห็น แล้วก็เป็นเช่นนั้น จึงได้รับอาสาบูรณะและพัฒนา “ศาลเจ้านาคราช” ทั้งๆที่ตอนนั้น มีเงินในกระเป๋าเพียง 3,000 บาท เท่านั่นเอง

O O O

อาจารย์ แห้วใช้เวลา 5 ปี “ศาลเจ้านาคราช” ก็เป็นรูปเป็นร่างจากพลังศรัทธาของศิษย์ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ ด้วยเม็ดเงินหลายร้อยล้านบาท โดยที่แล้วเสร็จสามารถประกอบกิจได้มี พระอุโบสถ ศาลเจ้าศาลา โรงเรียน ส่วนที่กำลังขึ้นโครงสร้างมีโรงเจกับโรงพยาบาล

กิจกรรมต่างๆที่ฉาย ออกเป็นรูปธรรม...ได้รับความสนใจจาก สำนักเส้าหลิน (Shaolin Temple of China) โดย Mr.Heng Zhi ในตำแหน่ง Abbot Assistant เดินทางมาสังเกตการณ์และ ประสานงานเพื่อนำมอบพระบรมสารีริกธาตุ

O O O

และ..... วันที่ 22 ถึง 24 มีนาคมนี้  ศาลเจ้าพ่อนาคราชจะจัดพิธีกรรมเททองหล่อพระประธาน (หลวงพ่อสำเร็จ) หน้าตักกว้าง 79 นิ้ว กับพระเกจิ 9 รูป สำหรับวันสุดท้าย (24 มี.ค.) อันเป็นไฮไลต์ของงาน....ช่วงเช้าจัดบวงสรวงเทวดาพร้อมทำพิธีแก้ปีชงให้กับ ศิษย์ พอตกบ่ายหลังเพลเริ่มเททองหล่อพระฯ

ผู้ที่เข้าร่วมพิธีฯ ทุกท่านจะเอิบอิ่มด้วยบุญกุศล ตั้งแต่ ได้รับแจกพระนางพญาฟรี และ เปิบอาหารอร่อย ตลอดทั้งวันดั่งที่ว่า.....อิ่มจังตังค์อยู่ครบ...!!