รำลึก เจ้าแม่จามเทวี ด้วยเจดีย์ชัยฯดอยกินบ่เซี่ยง
รำลึก เจ้าแม่จามเทวี ด้วยเจดีย์ชัยฯดอยกินบ่เซี่ยง
นายตรี ด่านไพบูลย์ กับสมบัติสมัยเจ้าแม่.
วัฏสงสาร...คติความเชื่อการ เวียนว่าย ตาย เกิด...
แก้ว อัมรินทร์...ได้เปิดบันทึกเกร็ด พระราชประวัติ “พระนางจามเทวี” ในการเสด็จกลับคืน
หริ ภุญไชยนคร ของพระนางกับ พระแก้วเสตังคมณี อันเป็นความลับซึ่งปิดเงียบมานานนับพันปีโดยไม่มีใครล่วงรู้แม้แต่ประวัติ ศาสตร์ ออกมาเป็นตัวอักษร....
O O O
เพื่อ ความกระจ่างชัด.....“เหนือฟ้า ใต้บาดาล” จึงไปตามล่าหาความจริง ณ พุทธนครธรรม บ้านดอนแก้ว ตำบลศรีบัวบาน เมืองลำพูน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนไฮเวย์ลำปาง-เชียงใหม่ จากขุนตาลก่อนถึงสามแยกดอยติประมาณ 7 กิโลเมตร...
...ตามพิกัด ประวัติว่าขุนเขา “ดอยกินบ่เซี่ยง” แห่งนี้ เมื่ออดีตที่ผ่านราวๆ 1,300 ปี เป็นปริมณฑลซึ่งเจ้าแม่จามเทวีทรงให้ผูกดวงเมืองหริภุญชัยกับเขลางค์นคร และเป็น สถานที่ทรงเปลี่ยน ฉลองพระองค์จากเครื่องทรงกษัตริย์เป็นอุบาสิกา (สีขาว) ปลีกพระราชภารกิจแล้ว ปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิปัญญาจนบรรลุ
O O O
ความ เนิ่นนาน....เจดีย์ที่ใหญ่โต ปราสาทที่งดงามหมดอายุไปตามกาลเวลา กลายเป็นเพียงป่ารกร้างที่มีซากอิฐซากหินอยู่บ้างเท่านั้น แล้ว รู้กัน ได้อย่างไร...จึงเป็นปรัศนีย์
นายตรี (มนตรี) ด่านไพบูลย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการหลายกระทรวงเล่าว่า...เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก แก้ว อัมรินทร์ หรือนางสาวปราณี หาญสุขจริยา ไม่ใช่ชาวลำพูนโดยกำเนิด ตอนชีวิตรับราชการก็อยู่กับสังคมวิทยาศาสตร์ มิได้สนใจหรือศึกษาในเรื่องจิตวิญญาณแต่อย่างใด
...พอได้สัมผัสกับ “โมจิ” จึงได้นำเรื่องราวต่างๆของเจ้าแม่จามเทวีในอดีตมาถ่ายทอดเป็นเรื่องเป็นราวได้โดยละเอียด...อย่างน่าพิศวง
O O O
"โมจิ" ธัญวลัย
และก็ไม่น่าเชื่อ...ต่อมาไม่นานก็ได้รับคำสั่งให้ย้าย มาประจำสำนักงานที่ลำพูน ปี 2540 เป็นปีแรกที่ย่างก้าวมาดินแดนแห่งนี้เป็นครั้งแรกของชีวิต แล้วก็อยู่ รับใช้เจ้าแม่ มาโดยตลอด...
...การเป็นสื่อให้กับเจ้าแม่ ไม่ใช่เป็นการเข้าทรงลงเจ้าแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับว่ายามใดที่เจ้าแม่รับสั่งอะไร ก็จะมาบอกเหตุเท่านั้น...มิสามารถกำหนดเวลาในการอัญเชิญได้
O O O
กับ....การ ถ่ายทอดสถานการณ์ที่ผ่านมา “โมจิ” ได้เล่าถึงประสงค์ของเจ้าแม่จามเทวี คือให้อัญเชิญพระแก้วเสตังคมณีกลับประดิษฐาน ณ สถานที่เดิม (ในท้องพระคลัง) และด้วยที่มีความเลื่อมใสต่อพระพุทธศาสนา รักและหวงแหนต่อแผ่นดิน
จึงมีกระแสถึง...ว่ากาลใดที่ศาสนาเสื่อมถอย พสกนิกรเกิดความเดือนร้อน ข้าวยากหมากแพง แตกความสามัคคี จะเสด็จกลับมาช่วยบรรเทา
...ด้วย ศรัทธา...จึงสนองด้วยการสร้างพุทธนครธรรมกับเจดีย์ขึ้นรอรับการเสด็จกลับ ทั้งสงฆ์และฆราวาสนำโดย พระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน กับ นายตรี ด่านไพบูลย์ โดยเชื่อว่าผู้ที่ได้ร่วมบุญกุศลนั้น ในอดีตชาติเคยเป็นข้าบริวารของเจ้าแม่จามเทวี
O O O
เป็น ที่น่า “งึด”...พระแก้วขาวเสตังคมณี พระพุทธรูปคู่ บารมีเจ้าแม่จามเทวีเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว ได้อัญเชิญมาจากละโว้ ได้ซุกซ่อนในเจดีย์สถานแห่งหนึ่งและอำพรางด้วยการเอารักสีดำทับไว้... โดยไม่มีใครรู้ระแคะระคายมาก่อน...
หลังจากปิดเขื่อนภูมิพล น้ำได้เอ่อท่วมโบราณสถานต่างๆจนถึงอำเภอฮอด ชาวบ้านจึงได้โยกย้ายถ่ายโอนพระพุทธรูปองค์นี้ไปหลายมือ กระทั่งครั้งหนึ่ง “โมจิ” กับพรรคพวกได้ถือศีลบวชชีพราหมณ์ เจ้าของร้านทองรายหนึ่งเอาพระพุทธรูปองค์นี้มาให้ดู แล้วฝากไว้
ความ รู้สึกของแม่ชีโมจิขณะนั้นเหมือนกับมีใครมาบอกว่า...นี่แหละคือสิ่งที่เรา ให้มาเอา เป็นของคู่บารมีแห่งเรา อย่าให้เขาเอาคืนเป็นอันขาด
O O O
พื้นที่บนดอยกินบ่เซี่ยง.
หลัง จากได้ พระพุทธรูป พระพุทธเสตังคมณี จึงนำมาประดิษฐาน ณ วัดศรีบุญเรือง เพราะเป็นพระราชวังของเจ้าแม่จามเทวีมาก่อน และพระพุทธรูปองค์นี้ก็เคยประดิษฐานที่นี่ แต่ต้องให้ทางวัดเปิดเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาจากนอกวัดได้มานมัสการซึ่ง ช่วงนั้นจะมีปัญหาหนักในเรื่องนี้ (ด้วยเจ้าอาวาสไม่ยอมเปิดวัด) ต่อมาจึงทะลุเพราะมีเหตุการณ์ต้องเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาส ปัจจุบันคือ พระภัคศุภ สุจิตโต
(...ซึ่งได้เผยผ่านสื่อโมจิว่า พระภัคศุภมีความผูกพันกับเจ้าแม่จามเทวี โดยตามเสด็จมาจากเมืองละโว้ ส่วนเจ้าของร้านทองนั้นในอดีตเคยเป็นอำมาตย์ของพระนาง ดูแลเมืองพิศดารนคร คืออำเภอฮอดในปัจจุบัน...)
O O O
แก้ว อัมรินทร์
ด้วย ความเลื่อมใสศรัทธา...จึงได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์สืบสานโบราณสถานแห่งนคร ของเจ้าแม่จามเทวีให้รุ่งเรืองดั่งอดีต ในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่ (เหนือ) ตรงกับวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้
ณ พุทธนครธรรม...กำหนดเริ่ม พิธีกรรม (พราหมณ์) บวงสรวงเทพยดา ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป 10.09 น. เป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนา เลี้ยงเพลเสร็จสรรพ รับประทานอาหารร่วมกัน โดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ (นายกรัฐมนตรีคนที่ 22) เป็นประธานในการวางศิลาฤกษ์เจดีย์ชัยยะมงคล...
...ผู้ที่ ร่วมบุญบนดอยฯ จะได้อานิสงส์ กิน-บ่เซี่ยง...หมายความถึง “กินกี่ชาติกี่ชาติก็ไม่หมด”..!!!
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น