รวมศิษย์หลวงปู่สงฆ์ สร้างอุโบสถ ผนึกพลัง รำลึกอาคมอาจารย์

รวมศิษย์หลวงปู่สงฆ์ สร้างอุโบสถ ผนึกพลัง รำลึกอาคมอาจารย์



หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร.

“...ฯลฯ...นรชาติที่วางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา...”
พระอธิการสงฆ์ จนฺทสโร หรือ “หลวงปู่สงฆ์วาจาสิทธิ์” อดีตประธานสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย (เลขที่ 41 บ้านศาลาลอย หมู่ 7 ต.บางลึก อ.เมืองชุมพร) แม้จะละสังขารไป 3 ทศวรรษแล้ว สังขารก็ไม่เปื่อยเน่า ความเลื่อมใสศรัทธายังมิคลาย...สืบต่อมาอย่างยืนยาว

กระทั่ง ปัจจุบัน...ทุกคืนยังมีการสวดอภิธรรม โดยเฉพาะ ทุกวันอังคาร (อันเป็นวันเกิดและมรณภาพ) มีการ สวดบทอนัตตลักขณสูตร กับ อาทิตตปริยายสูตร...สลับกันแต่ละสัปดาห์
O O O

รูปองค์ลอยหลวงปู่สงฆ์.

รูปองค์ลอยหลวงปู่สงฆ์.
หลวงปู่สงฆ์...เป็นชาวชุมพรโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล พ.ศ. 2433 เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ครั้งแรกเป็นสามเณรที่ วัดสวี อันเป็นบ้านเกิด ล่วงถึงอายุครบ 20 ปี จึงอุปสมบทอีกครั้งในวัดเดิม

ด้วย จิตมุ่งมั่นในทางสมถกับวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้เดินทางเพื่อค้นหาอาจารย์ดี (สมัยนั้นที่ชุมพรไม่มีพระอาจารย์ในด้านนี้เลย) ถึง ภูเก็ต ได้พบกับ พระอาจารย์รอด วัดโต๊ะแซ สงฆ์ผู้ฌานสมาบัติสูง
จึงฝากตัวเป็นศิษย์ ร่ำเรียน พากเพียรอย่างคร่ำเคร่งเพียง 2 พรรษาก็แกร่งกล้า อาจารย์จึงอนุญาต ปฏิบัติเดี่ยว ออกธุดงค์เข้าป่าดงพงไพร...เพื่อความรู้ แจ้งในจิตและจะได้ปรารภธรรมตามสติปัญญา
O O O
อาจารย์เพ็งมอบชนวนแก่พระครูวินัยธรวรรณไชย.

อาจารย์เพ็งมอบชนวนแก่พระครูวินัยธรวรรณไชย.
ด้วย ความมุมานะที่ คร่ำเคร่งปฏิบัติธรรมกำหนดจิตตน ขัดเกลา กิเลส ตัณหา อุปาทาน อันเป็นสมบัติประจำสันดานมนุษย์ เพื่อให้หลุดพ้นจึงธุดงค์มุ่งสู่ความวิเวกลงไปใต้สุดถึงมาเลเซีย แล้วย้อนกลับตามฝั่งทะเลตะวันออกเข้าเมืองไทย
ด้วยความเข้มจึง  เดินสายปฏิบัติที่ตึงเกินไป 7 ปีแห่งการสะสางความสะอาดหมดจดแห่งชีวิตไม่เคยออกจากป่าสู่เมืองเลย สภาพกายกลายเป็นฤาษีชีไพร ผมเผ้ายาว หนวดเครารุงรัง สบงจีวร ขาดรุ่งริ่ง ปักกลดภาวนาในป่าในดง
O O O

ยามนั้น สภาพจิตอาจสดใสแต่ก็ยังอยู่ในความมืดมน วันหนึ่งมี นกบินโฉบเฉี่ยว แล้วร้องเป็นภาษาคนว่า “...หนักนักก็วางเสีย หนักนักก็วางเสีย...” ชาวบ้านป่าที่ได้ยินเกิดความฉงนและสนใจ จึงเดินตามเสียงนกไปกระทั่งพบหลวงปู่สงฆ์ ก็เลยนิมนต์ให้มาปักกลดที่วัดร้าง แห่งหนึ่ง (คือวัดเจ้าฟ้าศาลาลอยในปัจจุบัน)

ปริศนาธรรมจากเสียง นก....หลวงปู่สงฆ์จึงผ่อนกิจปฏิบัติให้เบาลง กลับเข้าสู่การ  เป็นสงฆ์ที่สง่างามด้วยธรรมวินัย เป็นที่พึ่งแก่พุทธศาสนิกชน

ผู้ที่ ได้รับความทุกข์ มีโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มาขอความอนุเคราะห์ หลวงปู่สงฆ์จะช่วยเหลือจนบรรเทาและหายจากภัยทั้งหลายเหล่านั้น....ด้วยความ เมตตาจึงได้รับความเลื่อมใสศรัทธาขจรทั้งไกลใกล้
O O O

พระกริ่งปู่เจ้าสงฆ์.

พระกริ่งปู่เจ้าสงฆ์.
 
ตลอด ระยะเวลา...หลวงปู่สงฆ์จะตั้งตุ่มใส่น้ำมนต์ไว้ที่หน้ากุฏิ โดยบริกรรมในตอนกลางคืน พอก่อนรุ่งจะเอาน้ำมนต์มาเทใส่ตุ่มทำอย่างนี้ทุกวัน ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นมงคล ขลังและศักดิ์สิทธิ์
จะนำไปพรม อาบและดื่มกิน...เมื่ออาราธนาจะสมประสงค์ทุกประการตามอธิษฐานจิตของผู้ใช้
...ส่วน ใหญ่แล้วมักจะเอาน้ำมนต์นี้ไปใช้ในการขับไล่ผี เชื่อกันว่าฉมังนัก ที่เฮี้ยนๆ แรงร้ายทั้งหลาย เจอเข้าไปต้องกระโดด โอดโอยหนีไปผุดไปเกิด...!!!
หลวงปู่สงฆ์...ยังได้แผ่พลังเมตตาจิตแก่ สรรพ–สัตว์ทั้งหลายให้ได้รับกิจกุศลเช่นกัน อย่างที่หน้าวัดมีคลองเมื่อคนมาทำบุญ  หลวงปู่สงฆ์จะให้ปล่อยเต่า ปล่อยปลา หรือสัตว์อื่นๆ...เป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อชีวิต

O O O
ล่วง ถึง วันอังคาร ที่ 2 สิงหาคม 2526...หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร ได้ละสังขาร อย่างสงบ สิริอายุได้ 94 ปี สร้างความโศกเศร้าแก่ศิษยานุศิษย์และผู้ศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่กำลังมีการสวดอภิธรรมในคืนหนึ่ง ก็บังเกิดความมหัศจรรย์...

...เต่า ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งได้เดินต้วมเตี้ยมขึ้นจากคลองนำหน้าเพื่อนตรงไปหน้าหีบศพ แล้วผงกหัวคำนับเป็นการคารวะศพ พฤติกรรมของเต่าทั้ง9 ตัวนี้สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
และ...เรื่องนี้ก็เป็นข่าวฮือฮาสะพือไปทั่วในช่วงนั้น...!!
O O O

หลวงปู่สงฆ์ ได้ให้ชื่อวัดแห่งนี้ว่า “เจ้าฟ้าศาลาลอย” (วัดร้างแห่งนี้สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา เคยมีราชนิกุลมาบรรพชา จึงได้ตั้งชื่อว่าเจ้าฟ้า ส่วนศาลาลอยเป็นชื่อหมู่บ้าน) เมื่อปี 2500 ได้สร้างพระอุโบสถ ซึ่งมีความสำคัญต่อจิตใจของชาวชุมพรไม่น้อย เพราะเป็นมรดกธรรม ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษมีกิจอุปสมบทในพระอุโบสถนี้ไม่น้อยกว่า 5,000 ครั้ง

แล้วก็เกิดอุบัติ...ช่วงสายของวันที่ 8 พฤษภาคม 2556 เพลิงได้ไหม้พระอุโบสถใน นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อวัตถุแล้ว ยังได้สร้างความสะเทือน ใจ แก่ชาวบ้านศาลาลอยเป็นอย่างมาก
O O O

เพื่อ เยียวยาสร้างขวัญและกำลังใจ...พระครูพิพัฒน์ขันตยาภรณ์ (พระอาจารย์เพ็ง) เจ้าอาวาสวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย องค์ปัจจุบันซึ่งเป็น ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่สงฆ์ ด้วย จึงสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ แบบบูรณาการครอบหลังเก่าไว้โดย ไม่ต้องถอนพัทธสีมา
ทั้งนี้ เพราะ...พัทธสีมาของเดิมที่ฝังมาในอดีตนั้นเข้มขลัง เนื่องจากสงฆ์ที่มาร่วมทำสังฆกรรมล้วนแล้วแต่เป็นครูบาอาจารย์ที่สุดยอดเกจิ แห่งภาคใต้ทั้งนั้น ที่สำคัญสุด ประธานคือ หลวงพ่อสงฆ์ผู้สร้างวัดแห่งนี้...
O O O

เพื่อ สนองในกิจร่วมกุศล...พระอาจารย์เพ็ง จึงได้มอบหมายให้ พระครูวินัยธรวรรณไชย สิริวณฺโณ สร้างรูป องค์ลอยหลวงพ่อสงฆ์ บูชากับ พระกริ่งปู่เจ้าสงฆ์  จ่ายแจกผู้ร่วมศรัทธาในการสร้างพระอุโบสถครั้งนี้
ซึ่งจะ พุทธาภิเษกในวันเสาร์ 5 (ขึ้น 5 ค่ำ เดือนอ้าย) 7 ธันวาคม โดยรวมศิษย์หลวงปู่สงฆ์ทั้งหมดที่ยังอยู่ในเพศบรรพชิต เข้าพิธีกรรมฯ เป็นการสืบสานการร่วมอาคมของครูผู้วาจาสิทธิ์....
...ส่วนจะ เข้มขลัง ขนาดไหนนั้น...ขึ้นอยู่กับศรัทธา...!!!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น