เหนือฟ้าใต้บาดาล ใต้พิภพ

เมตตาจิตมิตรภาพไร้ขีดจำกัด ก๋งเตื่องตั้งกองทุนสร้างศาลาฯ

ก๋งเตื่องผู้มีเมตตาจิต.

เมตตาเจิ๊ด ปึ้งจะหนับ...
...เป็น คำพูดซึ่ง ชนชาวเขมร เอ่ยถึง “ก๋งเตื่อง เตชปญฺโญ” พระสงฆ์ลูกวัดคลองจาก อำเภอคลอง-ใหญ่ จังหวัดตราด ในแนวปฏิบัติที่...มีเมตตาจิต เปี่ยมล้น
โดย เฉพาะ.....เมื่อ วัดแหลมอวน อำเภอแหลม-งอบ ต้องการ สร้างศาลาการเปรียญ แต่ไม่มีปัจจัย พอ “ก๋งเตื่อง” รู้ก็ให้สร้าง พระปิดตามหาอุตม์ กับ รูปหล่อก๋งฯ เป็นวัตถุมงคลระดมทุน...ยิ่งเข้าประเด็น
ก๋ง เตื่อง...ได้รับฉายาว่า “เทพเจ้า 2 แผ่นดิน” และ “เกจิ 2 แผ่นดิน” เนื่องจากเป็น สงฆ์สังกัดเกาะ-กง กัมพูชา จากนั้นมา จำวัดในเมืองไทย คนทั้ง 2 ชาติ ทั้งไทยและเขมรต่างก็เลื่อมใสศรัทธาไม่แพ้กัน...จึงได้รับการยกย่องในนามนี้


อย่าง เมื่อปี 2549 สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา สร้างวัตถุมงคลแจกข้าราชการและประชาชน ซึ่งจัดพิธีกรรมอย่างใหญ่โตเต็มสูตร มี พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ทั่วอาณาจักรกัม-พูชาร่วมบริกรรมคาถา... หนึ่งในนั้นก็มี  “ก๋งเตื่อง เตชปญฺโญ” ด้วย...!!!

ก๋งเตื่อง...เป็น ชาวแหลมเปาะ จังหวัดเกาะกง เกิดเมื่อปี 2466 เป็นศิษย์พระเวทย์หลวงพ่อรอดวัดมรรคาราม เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ 2 ช่วง ครั้งแรก เมื่ออายุ 22 ปี แต่ด้วยสภาวะการเมืองวุ่นวายจึงลาสิกขาออกมาเป็นผู้นำชุมชนให้กับฝ่ายรัฐบาล

หลัง บ้านเมืองสงบและครอบครัวมีความสุขสบายจึงกลับเข้าสู่เพศบรรพชิตอีกครั้งที่ วัดคลองม่วง บวชเพียงไม่กี่พรรษาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ปกครองและบริหารจนเห็นว่าเจริญรุ่งเรืองดีแล้วจึงสละตำแหน่งให้สงฆ์รูปอื่น เข้าบริหารแทน...จากนั้นเดินทางมาจำพรรษาในเมืองไทย ณ วัดคลองจาก...!!!

ก๋ง เตื่อง...อายุแม้ 90 ปีแล้ว ทุกวันตื่นตี 4 สวดมนต์ ทำวัตรเป็นกิจปฏิบัติจนกระทั่งรุ่งสาง โดยใช้ทั้งภาษาบาลีและเขมร (...ว่ากันว่าคือคาถาปลุกเสกวัตถุมงคลอันเข้มขลัง ซึ่งมักจะมีคนแอบเอาวัตถุมงคลมาวางไว้ข้างกุฏิ ด้วยความเลื่อมใสและแรงศรัทธาเชื่อว่าได้รับพลังคาถาปลุกเสกไปในตัว เสร็จ...)


...จึง ไม่แปลก เมื่อ “ก๋งเตื่อง” สร้างเครื่องรางของขลัง หรืออนุญาตใครสร้างวัตถุมงคลก็จะได้รับพลังที่ศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง โดยเฉพาะในอดีตที่ผ่านมานั้นจะทำ (ตะกรุด) จารทีละดอกตั้งสมาธิม้วนที่ละดอกด้วยมือเอง (ได้วันละ 5-6 ดอก) เมื่อญาติโยมมาเยือนกราบนมัสการก็ จ่ายแจกไปโดยไม่เรียกร้องค่าใช้จ่าย...

ตะกรุด จารมือ...ถึงจะทำที่วัดคลองจากศิษยานุศิษย์และชาวบ้านก็ยังเรียกว่า “ตะกรุดวัด คลอง-ม่วง” ผู้นำไปใช้จะได้รับพลังในทางโชคลาภ เมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย (ด้วย เมื่อครั้งเป็นฆราวาสต้องเผชิญภัยในหลายรูปแบบ)...ซึ่งก็แล้วแต่ว่า ใครจะตั้งจิตอธิษฐานไปในด้านใด
วัตถุมงคล....หาก ใครได้รับจากมือ “ก๋งเตื่อง” แล้วนำไปมอบต่อให้กับผู้อื่น ผู้ที่รับช่วงก็เสมือนกับว่าได้ รับจากมือของ “ก๋งเตื่อง” โดยตรง เพราะได้อธิษฐานจิตไว้อย่างเข้มขลังฝังแน่น

รูปธรรมแห่งความ ศักดิ์สิทธิ์ เป็นข่าวสะพัดจากปากต่อปากฮือฮาไปทั่วภาคตะวันออก ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี สระแก้ว ฯลฯ ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดพลังในศรัทธา


วัดแหลมอวน หมู่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอแหลมงอบ ตราด เป็นศาสนสถานที่เกิดขึ้นสมัยหลังกึ่งพุทธกาล มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดคือพระพุทธรูปฉัตร ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อฉัตร” ประดิษฐานอยู่หน้าองค์พระประธานในพระอุโบสถ เชื่อว่าสร้างในสมัยศรีอยุธยา เดิมอยู่ วัดเนินดินแดง ในอำเภอเดียวกัน

...ช่วง เทศกาลฉลอง 200 ปี รัตนโกสินทร์ ทางอำเภอจัดประกวดพระ ทางวัดจึงนำหลวงพ่อฉัตรเข้าประกวด ขณะขนย้ายผ่านวัดแหลมอวน พาหนะที่บรรทุกเครื่องเกิดดับกะทันหัน ติดขัดไม่ยอมขยับเขยื้อนแม้จะลากจูงอย่างไรก็ไร้ผล พอนำองค์หลวงพ่อลงจากรถเท่านั้น เครื่องก็ติดวิ่งได้ฉลุย ....จึงต้องนำประดิษฐาน ณ ที่แห่งนี้

...ชาวบ้านเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และมีพลังสามารถบันดาลสิ่งต่างๆให้ตามปรารถนา...!!!
วัด แหลมอวนมีเจ้าอาวาสผ่านมาหลายรูป แต่อยู่ได้ไม่นานก็มีอันเป็นไปต้องโยกย้ายหรือสละตำแหน่ง ปัจจุบัน พระครูปลัดอนุรักษ์ ปภสฺสโร หรือ “พระครูเปา” เป็นเจ้าอาวาส ได้ดำเนินการพัฒนาวัด นำชาวบ้านปฏิบัติศาสนากิจรักษาศีลเป็นประจำทุกวันธัมมัสสวนะกับ เสาร์-อาทิตย์


และ...ถือ เป็นหนึ่งเดียวในแหลมงอบ ทุกๆปีช่วงภาคฤดูร้อนจัดโครงการบรรพชาสามเณรกับอบรมศีลาจาริณี ซึ่งก็เห็นว่า สถานที่รองรับในศาสนกิจพอเพียงสะดวกต่อการปฏิบัติกิจ เลยอยากจะสร้างศาลาการเปรียญ...จึงได้รับ เมตตาจาก “ก๋งเตื่อง” ในการตั้งกองทุน ให้...
พระครูเปา...อายุ 36 ปี เป็นชาวสุรินทร์ บวชตั้งแต่อายุ 12 ปีเป็นสามเณร แล้วต่อด้วยเป็นพระเมื่ออายุครบบวช ช่วงแรกๆเพียงเดินทางมาเยือนและช่วยงานเจ้าคณะอำเภอแหลมงอบเท่านั้น พอดีกับจังหวะที่เจ้าอาวาสวัดแหลมอวนขาด ไม่มีสงฆ์ในพื้นที่รูปใดขันอาสา...จึงถูกนิมนต์ให้รับตำแหน่ง
ครั้ง แรกที่ได้พบกับ “ก๋งเตื่อง” ไม่ทราบว่าเป็นใคร เห็นเป็นเพียงพระชรารูปหนึ่งเท่านั้น แต่ในความอาวุโสจึงได้กราบนมัสการ เมื่อสนทนาธรรม (เป็นภาษาเขมร) ก็เป็นที่พออกพอใจจากสงฆ์ผู้ทรงในวิชาอาคมที่  ได้รับความเลื่อมใสข้ามอาณา-จักร...ด้วย “มิตตะเพียบ มัน-เมียนจำกั๊ด (มิตรภาพ ไร้ขีดจำกัด)”


การสร้าง วัตถุมงคลรุ่น นี้ใช้มวลสารตามตำราเขมร ถือเป็นยอดพุทธาคมสืบสานตำนานพระเกจิ 2 แผ่นดิน โดยให้ชื่อว่า “รุ่นเมตตามหาสิทธิโชค” ซึ่งเข้าพิธีกรรมอย่างครบถ้วนพลังเปี่ยมความเข้มขลัง
...หลังนำจ่าย แจก นายรวมพล เสาร์จันทร์ ผู้จัดการสถานีบริการน้ำมัน PT สาขาบ่อไร่ ก็เป็นรายหนึ่งที่ได้รับวัตถุมงคล แม้มิใช่นักพนันก็มีความหวัง จึงเอา หมายเลขโค้ดที่ตอกไปซื้อ 3 ตัว ก็โชคดีได้เงินรางวัล จำนวนหนึ่ง งวดต่อๆมาเกิดย่ามใจแทงหนักกว่าเดิม...ปรากฏว่า“แห้ว”ตามติดๆ
ชิมลาง...เพียงงวดเดียว มันก็สลักลึกใต้จิตสำนึก นักบริหารหนุ่ม ให้เลื่อมใส “ก๋งเตื่อง” อย่างไร้วันลืม...!!