เหนือฟ้าใต้บาดาล ใต้พิภพ

16 ปี...พ่อศิลากลับทุ่งเสลี่ยม ฤกษเข้มขลัง...ภิเษกวัตถุมงคล

ขบวนแห่หลวงพ่อศิลากลับวัดเมื่อ 16 ปีที่แล้ว.

19ธันวาคม 2539.....ตั้งแต่หัวค่ำยันดึก ชาวสุโขทัยนับพันออและรอเครื่องบินเที่ยวบิน TG 771 ณ บริเวณสนามบินดอนเมือง ด้วยความสำคัญคือ.....หลวงพ่อศิลาจากอเมริกากลับสู่มาตุภูมิ

คามเวลา ที่รอคอย.....บนท้องฟ้ามีความเคลื่อนไหวของค้างคาวฝูงว่อนไปว่อนมา บางตัวถลาลงมาชนกระจกอาคารที่พักผู้โดยสาร สร้างความ อัศจรรย์ใจให้แก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เป็นอย่างยิ่ง....

....เพราะตลอดปีตลอดชาติ ปริมณฑลแห่งนี้ไม่เคยมีค้างคาวมาปรากฏ....!!!



ถือ ว่าเป็น นิมิตหมายอันดี....ปรากฏการณ์นี้บ่งว่าหลวงพ่อศิลากลับมาเมืองไทยแน่นอน ด้วยตั้งแต่โบราณกาลครั้ง ประดิษฐานในถ้ำเจ้ารามนานมาหลายศตวรรษค้างคาวนับล้านๆเป็นบริวาร จึงพากันบินมาต้อนรับ....ส่งเป็นสัญญาณ...!!!

หลวงพ่อศิลา.....เป็น พระพุทธรูปปางนาคปรกแกะสลักด้วยหินทราย เชื่อกันว่ามีอายุความร่วมพันปี ต่อมาจึงได้ ย้ายจากถ้ำเจ้ารามมาประดิษฐาน ณ วัดทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย

ชาวสุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียงต่าง ศรัทธาเลื่อมใสต่อหลวงพ่อศิลาเป็นอย่างมาก เป็นที่เลื่องลือเลื่อมใสในพลังอันศักดิ์สิทธิ์และได้รับความสนใจ ในความงดงามด้านศิลปะ

ย้อนอดีตไป....คืนวันที่ 29 ตุลาคม 2520 มารศาสนากลุ่มหนึ่งได้แอบเข้าไปอุ้มหลวงพ่อศิลาไปจากวัดทุ่งเสลี่ยม รุ่งขึ้นก็เป็นที่โจกท์จรรย์เกี่ยวกับการอันตรธานและความสูญเสียพระคู่สิ่ง คู่บ้านคู่เมืององค์นี้......แล้วข่าวคราวก็เงียบหายไป

เป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ เมื่อต้นปี 2539 มีกระแสข่าวโผล่ขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ว่าสถาบันโซธบี้เปิดประมูลวัตถุโบราณ ในจำนวนนี้มีองค์พระศิลาร่วมอยู่ด้วย หนังสือพิมพ์ “ไทยรัฐ” ได้นำเสนอข่าวนี้ และรื้อฟื้นข้อมูลอย่างละเอียดและต่อเนื่อง

โดย....ตามติดความ เคลื่อนไหว ตั้งแต่ออกจากสถาบันโซธบี้ลอนดอนและมีการถ่ายทอดผ่านไปหลายช่วง กระทั่งได้ เบาะแสท้ายสุดว่าตกอยู่กับคหบดีนักสะสมของเก่าที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

ทีมข่าวไทยรัฐ จึงประสานกับ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ รมช.ศึกษาธิการและดูแลกรมศิลปากรขณะนั้น เพื่อ หาหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัด แล้ว นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ได้ แต่งตั้งผู้แทนในนามรัฐบาลไทยบินด่วนไปวอชิงตัน ดี.ซี. ส่งหลักฐานต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ....

....ขออายัดหลวงพ่อศิลาจากผู้ครอบครอง แจงหลักฐานแน่ชัดว่าขโมยมาจากวัดทุ่งเสลี่ยม..!!

ซึ่ง ทางการสหรัฐฯก็รับปากจะความช่วยเหลือแต่ไม่การันตีว่าจะได้คืน ด้วยผู้ที่ครอบครองนั้นได้มาโดยชอบธรรม แล้วก็ ตกลงกันในขั้นสรุปว่าจะต้องถ่ายคืนเป็นเงิน 200,000 เหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 5 ล้านบาท)

เหมือนฟ้าประทาน...และพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ คนแก่ใจดี (เศรษฐีใจบุญ) เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธาน ซีพี. ควัก 5 ล้านบาท มอบหมายให้ นายวัลลภ เจียรวนนท์ นำไปไถ่องค์หลวงพ่อศิลาคืน

ในการ นี้.....ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ เป็นหัวหน้าในการอัญเชิญหลวงพ่อศิลากลับเมืองไทยในฐานะราษฎรเต็มขั้น (ด้วยตอนนั้นพ้นจากตำแหน่ง รมช.กระทรวงศึกษาธิการแล้ว) หลังนำหลวงพ่อศิลากลับมาประดิษฐาน ณ วัดทุ่งเสลี่ยมแล้ว ก็มิได้มีบันทึกถึงความร่วมมือในการประสานของ “ไทยรัฐ” ข่าวคราวของหลวงพ่อศิลาจึงค่อยๆจางลง

จากนั้นศรัทธาจึงเลื่อนไหลไป ยังวัดอื่นแต่ก็อยู่ในเขตของทุ่งเสลี่ยมเช่นกัน แม้แต่ตำแหน่งบริหารด้านสงฆ์ ทั้งๆที่วัดทุ่งเสลี่ยมเป็นศาสนสถานประจำอำเภอ

อย่าง ไรก็แล้วแต่....กับ ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อศิลามิได้เสื่อมถอย โดยเฉพาะเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชีวิต ด้านการงาน ธุรกิจ โชคลาภ ฯลฯ

เมื่อ คืนวันจะส่งท้ายปี 2552 (29 ธันวาคม)....เกิดเพลิงไหม้อาคารภายในวัดทุ่งเสลี่ยมหมดทั้งหลัง รุ่งเช้าเจ้าหน้าที่เข้าตรวจพบว่าทุกอย่างวอด คงเหลือแต่แผ่นผ้ายันต์รูปหลวงพ่อศิลาซึ่งไฟจะลามไหม้เฉพาะขอบๆเว้นรูปองค์ พระฯไว้....สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็น

ครั้งหนึ่ง....พระ อธิการสวัสดิ์ สุธัมโม อดีตจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยม ได้เดินทางไปจังหวัดแพร่แล้วประสบอุบัติเหตุรถตกลงไปในเหวลึก พาหนะคันนั้นพังยับแต่ตัวเจ้าอาวาสมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ทั้งนี้ เพราะ ได้นำเหรียญหลวงพ่อศิลาติดตัวไปด้วย จึงเชื่อว่าได้รับอิทธิฤทธิ์พลังช่วยให้รอดปลอดภัย

และ......ยังมีอีกหลายปรากฏการณ์ที่สำแดงถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อศิลา

จาก วันที่หลวงพ่อศิลากลับสู่มาตุภูมิ (2539) ถึงวันนี้ เป็นคาบระยะเวลา 16 ปี วัดทุ่งเสลี่ยมได้เปลี่ยนเจ้าอาวาสไปหลายรูป ถึงปัจจุบันพระครูสุเขตสุธาลังการ (อลงกรณ์ อนาลโย) เป็นเจ้าอาวาส ได้มุ่งเน้นจะเรียกแรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนให้เลื่อมใสต่อหลวงพ่อศิลา คืนกลับ ดั่งเช่นอดีตในยุคที่รุ่งเรือง



จึง เกิดแรงบันดาลใจ....ให้จำลองย่อส่วน “หลวงพ่อศิลา” เพื่อสะดวกต่อการบูชาและติดตัวไปได้ทุกหนแห่ง เพื่อจ่ายแจกศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสให้สืบสานศรัทธาสู่อนาคต เป็นวัตถุมงคล รุ่น” ฉลองศาลาการเปรียญ 2555 “.....โดย กำหนดพิธีกรรมให้ครบถ้วนทุกขั้นตอนตามตำรา

ถือฤกษ์สร้างวันที่ 29 ตุลาคม 2555 อันเป็นวัน....ครบ 35 ปีที่ถูกคนใจบาปขโมย

และ....จะ พุทธาภิเษกในวันที่ 19 ธันวาคม 2555 อันเป็นช่วงดาวจันทร์เกาะดาวศตภิเษก นักษัตรฤกษ์ที่ 24 เทวีฤกษ์ ต่อด้วยเพชฌฆาตฤกษ์.....ครบ 16 ปีที่องค์พ่อศิลากลับมาตุภูมิ

แล้วเสร็จครบถ้วนกระบวนการ มั่นใจความเข้มขลังจึงจะจ่ายแจก ส่วนจะมีพลังขนาดไหนนั่นอยู่ที่ความเลื่อมใส พิสูจน์ได้เมื่อยามภัยมา......แต่ อย่านำไปลองของ..!!!